ทำไมเทรดเดอร์มือโปร ถึงเลือกเทรดกับ “แพลตฟอร์มใหญ่”?

ทุกครั้งที่เรามองหาแพลตฟอร์มเทรด คำแนะนำที่มักได้ยินบ่อยคือเลือกแพลตฟอร์มใหญ่ไว้ก่อน เลี่ยงแพลตฟอร์มเล็กให้มากที่สุด” แม้คำแนะนำนี้จะฟังดูเหมารวมอยู่บ้าง แต่ถ้าพิจารณาในแง่ของ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพของบริการ ก็ต้องยอมรับว่าแพลตฟอร์มขนาดใหญ่มักมีมาตรฐานในระดับที่สูงกว่า ทั้งในด้านโครงสร้างระบบ การกำกับดูแล และความเป็นมืออาชีพของทีมงาน
 
3 จุดเด่นของแพลตฟอร์มใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจน

1. ระบบโครงสร้างและความปลอดภัยที่ดีกว่า
แพลตฟอร์มขนาดใหญ่จะมีการลงทุนใน เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ (Dedicated Servers) ซึ่งมีความเสถียรและความปลอดภัยสูง เช่น EBC ใช้เซิร์ฟเวอร์เฉพาะถึง เครื่อง เชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก รองรับคำสั่งเทรดจำนวนมากได้อย่างลื่นไหล ในขณะที่แพลตฟอร์มเล็กมักใช้เซิร์ฟเวอร์เช่า ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องความเร็ว ความเสถียร และความปลอดภัย
 
2. เชื่อมต่อกับแหล่งสภาพคล่องระดับโลก
แพลตฟอร์มใหญ่สามารถเชื่อมต่อกับธนาคารชั้นนำ เช่น JPMorgan, Citibank และ UBS ได้โดยตรง ทำให้สามารถเสนอราคาซื้อขายที่แม่นยำ และมีสเปรดที่ต่ำกว่า ในขณะที่แพลตฟอร์มเล็กมักต้องพึ่งพาผู้ให้บริการสภาพคล่องรายย่อย (POP) ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนการเทรดสูงขึ้น
 
3. บริการลูกค้าแบบครบวงจร
แพลตฟอร์มใหญ่ส่วนใหญ่มี ทีมสนับสนุนลูกค้า 24 ชั่วโมง วัน พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค การฝากถอน และคำแนะนำในการใช้งาน นอกจากนี้หลายแพลตฟอร์มยังมี บริการ localized support ที่รองรับภาษาไทย เพื่อให้ผู้ใช้งานในแต่ละประเทศได้รับบริการที่ตรงความต้องการมากขึ้น
 
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแพลตฟอร์มไหน "ใหญ่" จริง?

 มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับระดับโลก
แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ควรได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับระดับสากลอย่าง
  • FCA (อังกฤษ)
  • ASIC (ออสเตรเลีย)
  • CIMA (หมู่เกาะเคย์แมน)
การได้ใบอนุญาตเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวดทั้งด้านทุนจดทะเบียน การบริหารความเสี่ยง และระบบภายใน ตัวอย่างเช่น FCA มีค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาตที่สูง ต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำถึง ล้านปอนด์ในการประกัน และจ่ายค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตไม่ต่ำกว่า 125,000 - 730,000 ปอนด์
 
 บัญชีแยกเก็บเงินกับธนาคารชั้นนำ
หลังวิกฤตฟรังก์สวิสในปี 2015 ธนาคารชั้นนำทั่วโลกเริ่มเข้มงวดเรื่องการเปิดบัญชีมากขึ้น โดยเฉพาะบัญชีสำหรับการฝากเงินลูกค้าอย่างอิสระ หากแพลตฟอร์มสามารถเปิดบัญชีกับธนาคารระดับ AAA เช่น Barclays ได้ นั่นหมายความว่าแพลตฟอร์มนั้นมีทั้ง
  • ความแข็งแกร่งทางการเงิน
  • ความโปร่งใสด้านเอกสาร
  • และมีการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกอย่างสม่ำเสมอ
EBC เองก็ใช้บัญชี Corporate Banking ระดับสูงของ Barclays ซึ่งต้องมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 6.5 ล้านปอนด์

 สภาพคล่องต้องสูง
สภาพคล่องที่ดีจะทำให้เทรดได้ราคาที่ดีที่สุดและเร็วที่สุด แพลตฟอร์มใหญ่สามารถเชื่อมตรงกับธนาคารในตลาดระหว่างธนาคาร (Interbank Market) ซึ่งถือเป็นตลาดสภาพคล่องอันดับหนึ่งของโลก
 
 บริการที่เป็นมากกว่าการเทรด
แพลตฟอร์มใหญ่สามารถเข้าถึง Interbank Market โดยตรง ทำให้ราคาซื้อขายมีความแม่นยำ และความเร็วในการส่งคำสั่งสูง

สรุป
การเลือกแพลตฟอร์มเทรดไม่ควรดูแค่โปรโมชั่นหรือสเปรดต่ำเพียงอย่างเดียว แต่ควรมองให้ครบทุกด้าน เช่น
  • ความน่าเชื่อถือของใบอนุญาต
  • ระบบที่มีเสถียรภาพ
  • การจัดการเงินลูกค้าอย่างโปร่งใส
  • การเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องที่ดี
  • และบริการหลังบ้านที่รองรับคุณได้ตลอดเวลา
แพลตฟอร์มใหญ่ จึงไม่ใช่แค่ ตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าแต่ยังเป็น คู่ค้าทางการเงิน” ที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ EBC ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ผ่านเกณฑ์เหล่านี้ได้อย่างครบถ้วนและเป็นตัวอย่างของการพัฒนาอย่างมั่นคงในระดับสากล

Comments

Popular posts from this blog

วิธีตรวจสอบโบรกเกอร์ให้ปลอดภัยด้วยใบอนุญาตจาก FCA

ต้นทุนแฝงในการเทรดมีอะไรบ้างและเราสามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่?

2 วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าร่วมการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ