ทำไมบางโบรกเกอร์ Forex สามารถดำเนินการคำสั่งซื้อได้รวดเร็ว ขณะที่บางโบรกเกอร์กลับช้า?
เมื่อเราตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ในการเทรด สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ ความเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อ เพราะยิ่งสามารถดำเนินการคำสั่งได้เร็วเท่าไร ความแม่นยำในการดำเนินการคำสั่งจะยิ่งสูงขึ้น และจะช่วยลดโอกาสในการเกิด Slippage (การที่ราคาที่ดำเนินการจริงแตกต่างจากราคาที่ตั้งไว้) ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำกำไรหรือขาดทุนของเราได้
วันนี้เราจะมาดูกันว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อความเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อในตลาดการเทรด
1. จำนวนเซิร์ฟเวอร์
สิ่งที่หลายคนมักพิจารณาเป็นปัจจัยแรกเมื่อเลือกโบรกเกอร์คือ จำนวนเซิร์ฟเวอร์ ที่โบรกเกอร์ใช้ ยิ่งโบรกเกอร์มีเซิร์ฟเวอร์มากเท่าไร ก็ยิ่งสามารถประมวลผลข้อมูลและดำเนินการคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้นเท่านั้น
โบรกเกอร์ที่มีคุณภาพสูงมักจะมีการตั้งเซิร์ฟเวอร์หลักและเซิร์ฟเวอร์สำรองหลายเครื่อง โดยเซิร์ฟเวอร์สำรองเหล่านี้มักมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเซิร์ฟเวอร์หลัก ช่วยลดภาระของเซิร์ฟเวอร์หลักและยังเพิ่มความสอดคล้องและความแม่นยำในการดำเนินการคำสั่งซื้อ
ตัวอย่างเช่น EBC ที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ระดับ Tier 4 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุด สามารถให้ความเสถียรของระบบได้ถึง 98.75%
การมีเซิร์ฟเวอร์สำรองจึงไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อมูล แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการ สำรองข้อมูล ในกรณีที่ระบบหลักล่ม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากไม่ว่าโบรกเกอร์ใดก็อาจพบความเสี่ยงในการเกิดระบบล่มได้ ดังนั้น โบรกเกอร์ที่มีเซิร์ฟเวอร์สำรองหลายเครื่องสามารถดำเนินการคำสั่งซื้อได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่มีการเทรดในปริมาณสูง
2. ตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์
ตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์มีบทบาทสำคัญต่อความเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อ หากเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดหลัก ๆ ก็จะช่วยให้การเชื่อมต่อกับ ผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers) ทำได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งสามารถลดความล่าช้าในการส่งคำสั่งซื้อได้อย่างมาก ตัวอย่างของเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ ได้แก่:
- NY4 (นิวยอร์ก) – ตั้งอยู่ใกล้ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และศูนย์กลางการเงินระดับโลก
- LD5 (ลอนดอน), SG1 (สิงคโปร์), TY3 (โตเกียว), HK2 (ฮ่องกง) – ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางทางการเงินสำคัญในแต่ละภูมิภาค
โบรกเกอร์ที่มีการกระจายเซิร์ฟเวอร์ในตำแหน่งเหล่านี้จะสามารถลดความล่าช้าในการดำเนินการคำสั่งซื้อได้ และยังช่วยให้สามารถให้ ราคาที่แม่นยำ มากยิ่งขึ้นในการเทรด
3. ศูนย์ข้อมูล (Data Center)
โบรกเกอร์การซื้อขายที่มีการกระจาย ศูนย์ข้อมูลหลายแห่ง สามารถช่วยลดเวลาในการส่งข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์และผู้ใช้งาน ตัวอย่างเช่น EBC ที่มีศูนย์ข้อมูลถึง 30 แห่ง รอบ ๆ เซิร์ฟเวอร์หลัก 5 จุด ซึ่งช่วยให้การดำเนินการคำสั่งซื้อทำได้รวดเร็วที่สุดเพียง 20 มิลลิวินาที (ms) เท่านั้น
ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถส่งคำสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้ข้อมูลเดินทางผ่านหลายเครือข่าย ซึ่งเป็นการลด ความล่าช้าในการเทรด และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการคำสั่งซื้ออย่างมาก
4. เทคโนโลยี FIX API และระบบ Bridge
FIX API เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการเชื่อมต่อโบรกเกอร์กับผู้ให้บริการสภาพคล่อง โดยประสิทธิภาพของการดำเนินการคำสั่งซื้อจะขึ้นอยู่กับ เทคโนโลยี Bridge ที่แต่ละโบรกเกอร์ใช้ในการเชื่อมต่อระบบของตนกับแหล่งสภาพคล่องต่าง ๆ
- โบรกเกอร์ที่มี Bridge คุณภาพสูง สามารถรวมแหล่งสภาพคล่องได้รวดเร็ว ลดปัญหาความล่าช้าในการส่งคำสั่ง
- หากระบบ Bridge ไม่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดปัญหาดีเลย์หรือระบบติดขัด ทำให้คำสั่งซื้อถูกดำเนินการช้าลง
ตัวอย่างเช่น EBC สามารถรองรับการส่งคำสั่งซื้อ 1,000 รายการต่อวินาที และให้ราคาแบบ 5 ระดับความลึกของตลาด (Market Depth) ซึ่งช่วยให้โบรกเกอร์สามารถจับคู่คำสั่งซื้อได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
สรุป
ความเร็วของการดำเนินการคำสั่งซื้อในโบรกเกอร์ Forex ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- จำนวนเซิร์ฟเวอร์ – ยิ่งมีเซิร์ฟเวอร์มากเท่าไร ระบบจะมีความเสถียรมากขึ้น
- ตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ – ยิ่งใกล้ศูนย์กลางการเงิน ยิ่งส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น
- จำนวนศูนย์ข้อมูล – การมีศูนย์ข้อมูลหลายแห่งช่วยลดระยะทางของข้อมูลและเพิ่มความเร็วในการส่งคำสั่ง
- เทคโนโลยี Bridge และ FIX API – เทคโนโลยีเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อความเร็วในการเข้าถึงแหล่งสภาพคล่อง
จากสถิติพบว่า การส่งข้อมูลจากเอเชียไปยุโรปโดยผ่านสายเคเบิลใต้ทะเลใช้เวลา เฉลี่ย 500 มิลลิวินาที (ms) แต่โบรกเกอร์คุณภาพสูงอย่าง EBC ที่ใช้เซิร์ฟเวอร์และเทคโนโลยีที่ดีนั้น สามารถลดเวลานี้ให้เหลือเพียง 300 มิลลิวินาที (ms) ซึ่งทำให้การซื้อขายมีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้น
ดังนั้น หากต้องการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของ Slippage การเลือกโบรกเกอร์ที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม!


Comments
Post a Comment