วิธีรับมือเมื่อถอนเงินจากการเทรด Forex ไม่ได้

ช่วงที่ผ่านมา มีหลายคนเจอปัญหาถอนเงินไม่ได้จากแพลตฟอร์มเทรด Forex ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความกังวล เพราะเกี่ยวข้องกับเงินทุนเราโดยตรง หลายคนอาจคิดไปก่อนว่าเจอบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ในความเป็นจริง ปัญหานี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ และไม่ได้หมายความว่าโดนโกงเสมอไป

ดังนั้น ถ้าถอนเงินไม่ได้ สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งสติและตรวจสอบสาเหตุ

สาเหตุที่ทำให้ถอนเงินไม่ได้

1. ข้อมูลบัญชีผิดพลาด
หากกรอกเลขบัญชีผิด หรือใช้บัญชีที่ไม่ตรงกับบัญชีที่เคยฝากเงิน อาจทำให้ระบบไม่สามารถโอนเงินออกให้ได้ เราควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลบัญชีที่ให้ไว้ถูกต้อง

2. ระยะเวลาการดำเนินการของธนาคาร
ธนาคารต้องใช้เวลาในการดำเนินการ การฝากเงินมักใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ส่วนการถอนเงินอาจใช้เวลา 1-3 วัน อย่างไรก็ตาม บางโบรกเกอร์ที่มีระบบธุรกรรมที่รวดเร็ว เช่น EBC สามารถดำเนินการฝากเงินได้ภายใน 10 นาที และถอนเงินได้ภายใน 3 ชั่วโมง

ที่สำคัญควรส่งคำขอถอนเงินก่อน 16:00 น. ในวันทำการเพราะหากเกินเวลานี้ ธนาคารอาจเลื่อนการดำเนินการไปวันถัดไป และหากถอนเงินในวันหยุดหรือช่วงนอกเวลาทำการของธนาคาร อาจต้องรอวันทำการถัดไป

อีกวิธีหนึ่งในการฝาก-ถอนเงินคือ การโอนผ่านธนาคาร (Wire Transfer) ซึ่งดำเนินการผ่านเครือข่ายธนาคารระหว่างประเทศ ทำให้ใช้เวลานานกว่าวิธีอื่น แม้แต่โบรกเกอร์ที่ฝาก-ถอนเร็วอย่าง EBC ก็อาจใช้เวลาถอน 1-3 วัน และบางโบรกเกอร์อาจนานถึง 2 สัปดาห์

โดยทั่วไป การโอนผ่านธนาคารมักใช้เวลา 3-5 วัน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่หากล่าช้าเกินไป แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อตรวจสอบสถานะ

3. ระบบของโบรกเกอร์อยู่ระหว่างการอัปเดต
บางครั้งโบรกเกอร์มีการอัปเกรดระบบ ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกรรมล่าช้า อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือนั้นมักแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า แต่หากไม่มีการแจ้งเตือนใด ๆ และฝ่ายบริการลูกค้าตอบคำถามไม่ชัดเจน อาจเป็นสัญญาณว่ากำลังเผชิญกับปัญหาโบรกเกอร์ที่ไม่น่าไว้วางใจ

4. โบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือโบรกเกอร์ปลอม
หากตรวจสอบปัจจัยข้างต้นแล้วไม่มีปัญหา แต่ยังถอนเงินไม่ได้ อาจเป็นไปได้ว่า กำลังเผชิญกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งมักมีพฤติกรรมดังนี้

• อ้างว่าบัญชีไม่ผ่านเงื่อนไขการถอนเงิน
• บังคับให้ทำการซื้อขายเพิ่มก่อนจะถอนเงินได้
• หลอกให้ฝากเงินเพิ่มเพื่อยืนยันตัวตน 

หากหลงเชื่อและฝากเงินเพิ่ม หรือทำการซื้อขายตามที่โบรกเกอร์บังคับ อาจถูกทำให้ขาดทุนโดยเจตนา และเสียเงินทั้งหมด ดังนั้น ควรเก็บหลักฐานธุรกรรมและการสนทนากับโบรกเกอร์ไว้เสมอ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการร้องเรียน

โบรกเกอร์ปลอมนั้นมักเลียนแบบโบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมายหรือแอบอ้างว่าอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานอย่าง FCA หากพบเจอ ควรแจ้งข้อมูลให้โบรกเกอร์ที่ถูกต้องและ FCA ทราบโดยเร็ว บางกรณีอาจได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการลดความสูญเสีย

วิธีหลีกเลี่ยงปัญหาการถอนเงินไม่ได้

สาเหตุทั้ง 4 ข้อนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ฝาก-ถอนเงินไม่ได้

หากเป็น 3 ข้อแรก แค่รออย่างอดทนก็พอ แต่ก็ไม่ควรปล่อยผ่าน เพราะโบรกเกอร์ปลอมอาจใช้กลอุบายถ่วงเวลา

ส่วนข้อที่ 4 นั้นเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอ และน่าเสียดายที่โบรกเกอร์ปลอมไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล โอกาสได้เงินคืนโดยตรงจึงมีน้อย ดังนั้น เราควรพิจารณาให้รอบคอบในประเด็นเหล่านี้

1. เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ
หน่วยงานกำกับดูแลที่ได้รับความเชื่อถือ เช่น FCA (อังกฤษ) และ ASIC (ออสเตรเลีย) มีมาตรฐานที่เข้มงวดเกี่ยวกับการจัดการเงินทุนของลูกค้า โดยโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานเหล่านี้มักแสดงหมายเลขใบอนุญาตบนเว็บไซต์ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยตรง

2. ตรวจสอบนโยบายการฝาก-ถอนเงินของโบรกเกอร์
เนื่องจากตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล เงินทุนของผู้ใช้ต้องถูกเก็บรักษาแยกออกจากกัน ดังนั้น เมื่อผู้ใช้ต้องการถอนเงิน ก็จะผ่านช่องทางเฉพาะและถูกโอนกลับเข้าบัญชีของเราโดยตรง หากโบรกเกอร์มีข้อจำกัดมากเกินไป ควรหลีกเลี่ยง และก่อนเปิดบัญชีควรสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าให้ชัดเจน เพราะโบรกเกอร์เถื่อนมักไม่เปิดเผยเงื่อนไขแอบแฝงเหล่านี้

3. ทดสอบระบบก่อนลงทุนจริง
การป้องกันโบรกเกอร์เถื่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นก่อนเริ่มเทรด ควรเริ่มจากการใช้เงินทุนจำนวนน้อยเพื่อทดสอบระบบ ไม่ควรลงทุนเงินทั้งหมดในครั้งเดียว ลองฝาก-ถอนหลายครั้งเพื่อดูว่ามีปัญหาหรือไม่ หากไม่มีปัญหาจึงค่อยเพิ่มเงินลงทุน

นอกจากนี้ หากโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจาก FCA การเปิดบัญชีจะต้องทำผ่านการโอนเงินทางธนาคารเท่านั้น และสามารถตรวจสอบบัญชีรับฝากได้ ถ้าบัญชีของเราตรงกับบัญชีที่โบรกเกอร์จัดเตรียมไว้ นั่นหมายความว่าเงินของเราถูกแยกเก็บอย่างเป็นอิสระ ตัวอย่างเช่น EBC ที่เผยแพร่ข้อมูลบัญชีธนาคารของBarclays บนเว็บไซต์ เราสามารถตรวจสอบข้อมูลบัญชีเพื่อยืนยันว่าเงินของเราไปที่ไหน อีกทั้ง หน่วยงานกำกับดูแลมักควบคุมธนาคารในประเทศตัวเองได้อย่างเข้มงวด ดังนั้นบัญชีฝากเงินที่แยกอิสระจะเปิดที่ธนาคารชื่อดังในประเทศที่หน่วยงานกำกับดูแลตั้งอยู่ เช่น Barclays ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังในสหราชอาณาจักร

4. ตรวจสอบว่ามีประกันความรับผิดทางวิชาชีพ (PI Insurance) หรือไม่
ประกัน PI หรือประกันความรับผิดทางวิชาชีพ เป็นประกันที่ครอบคลุมความสูญเสียของผู้ใช้ที่เกิดจากความผิดพลาดของโบรกเกอร์ โดยบริษัทประกันจะรับผิดชอบชดเชยความเสียหายทั้งหมด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลบางแห่ง เช่น FCA และ ASIC ได้บังคับให้มีการประกัน PI โดย  FCAกำหนดวงเงินขั้นต่ำที่ 1 ล้านปอนด์และ ASIC ประมาณ 2.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

วงเงินประกันมีผลต่อการชดเชยจริงที่ผู้ใช้จะได้รับ ตัวอย่างเช่น EBC ที่มีวงเงินประกันมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากมีการเรียกร้องค่าสินไหมจากประกัน ผู้ใช้สามารถได้รับการชดเชยสูงสุดถึง 350,000ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ามีการคุ้มครองที่มาก

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราประเมินความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์และมั่นใจได้ว่ามีการคุ้มครองทางการเงินที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการฝาก-ถอนเงิน

การป้องกันปัญหาในการถอนเงินควรเริ่มตั้งแต่การเลือกโบรกเกอร์ปลอดภัย และมีมาตรฐานการกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบเงื่อนไขการฝาก-ถอนให้ชัดเจน และไม่ควรรีบฝากเงินจำนวนมากโดยไม่ทดลองใช้งานก่อน หากพบปัญหา ควรเก็บหลักฐานและดำเนินการร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การมีสติและความรอบคอบจะช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ