ทำไมใบอนุญาต FCA จึงมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆในวงการการเงิน?

เพื่อน ๆ หลายคนอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งหายา ยิ่งมีมูลค่า” จริง ๆ คำกล่าวนี้ก็สามารถใช้ได้กับใบอนุญาตกำกับดูแลเช่นกัน

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดและมีอำนาจมากที่สุดในโลก ใบอนุญาต FCA จึงมีมูลค่าในตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ FCA กำลังเพิ่มความเข้มงวดในข้อกำหนดการตรวจสอบ เงินทุนขั้นต่ำ และมาตรฐานการกำกับดูแล รวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นในการเพิกถอนใบอนุญาตอีกด้วย

สิ่งนี้อาจหมายความว่าใบอนุญาต FCA จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และกลายเป็นมาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในการคัดเลือกโบรกเกอร์

1. มาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น

จากรายงานประจำปี 2022/2023 ของ FCA พบว่า มีการเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทที่ไม่ผ่านเกณฑ์ถึง 627 แห่ง เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2021

บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ได้รับใบอนุญาตมีเพียงประมาณ 300 แห่ง การเพิกถอนใบอนุญาตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้โบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตลดลงอย่างชัดเจน

โบรกเกอร์ที่ผ่านการตรวจสอบจำเป็นต้องส่งรายงานการตรวจสอบบัญชีอย่างต่อเนื่อง และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความสอดคล้องของ FCA อย่างเคร่งครัด

FCA เป็นหน่วยงานเดียวในโลกที่ใช้หลักการ "การตัดสินใจแบบพิจารณา" หากพบปัญหา โบรกเกอร์ต้องยื่นหลักฐานแสดงความโปร่งใส มิฉะนั้นอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต ดังนั้นโบรกเกอร์ต้องมีความตระหนักและปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างจริงจัง

ใบอนุญาตของ FCA มี 7 ประเภท เช่น ใบอนุญาตเต็มรูปแบบ (Full License), EEA, AR และใบอนุญาตการชำระเงิน (Payment License) แต่ใบอนุญาต STP และ MM ภายใต้ใบอนุญาตเต็มรูปแบบเป็นใบอนุญาตที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดที่สุด พร้อมความคุ้มครองสูงสุด 85,000 ปอนด์ภายใต้ FSCS

2. ข้อกำหนดการดูแลเงินทุนที่เข้มงวดขึ้น

ข้อกำหนด CASS ของ FCA บังคับให้โบรกเกอร์ต้องแยกเก็บเงินทุนของลูกค้า และต้องมีการตรวจสอบและรายงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อรับรองความปลอดภัยของเงินทุน

โบรกเกอร์ต้องเลือกธนาคารชั้นนำ เช่น Barclays Corporate Banking Account ซึ่งต้องมีรายได้และเงินฝากเกิน 6.5 ล้านปอนด์ และผ่านการตรวจสอบทางการเงินอย่างเข้มงวด

3. ข้อกำหนดเงินประกันที่สูงขึ้น

FCA มีแผนการคุ้มครอง FSCS (Financial Services Compensation Scheme) เพื่อให้ความคุ้มครองนักลงทุนที่เริ่มตั้งแต่ปี 2001 โดยจ่ายเงินชดเชยรวมกว่า 5.5 พันล้านปอนด์ เพื่อช่วยเหลือนักลงทุนในวิกฤตการเงินปี 2008 และเหตุการณ์ฟรังก์สวิสปี 2015

ในปี 2022 FCA ได้เพิ่มข้อกำหนดเงินทุนเพื่อความปลอดภัย โดยอาจต้องเพิ่มเงินทุนอีก 19.2 ล้านปอนด์ และเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับความต้องการสภาพคล่องอีก 208.7 ล้านปอนด์

4. มาตรฐานการคุ้มครองที่สูงขึ้น

FSCS เป็นแผนการคุ้มครองทางการเงินที่น่าเชื่อถือที่สุด โดยในปี 2020 และ 2021 FCA จ่ายเงินชดเชยปีละ 580 ล้านปอนด์ สูงกว่าปี 2015 ถึงสองเท่า

FCA ยังเพิ่มข้อกำหนดให้โบรกเกอร์ต้องมีประกันความรับผิดระดับมืออาชีพอย่างน้อย 1 ล้านปอนด์ ตัวอย่างเช่นโบรกเกอร์ที่เราใช้อยู่นั้น EBC มีประกันหลายล้านดอลลาร์จาก Lloyds of London และ AON

โดยรวมแล้ว FCA ได้ยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลและการคุ้มครอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและทำให้ใบอนุญาต FCA มีมูลค่าสูงขึ้น ดังนั้น การเลือกใช้โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเต็มรูปแบบของ FCA จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ