TRADE

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า  FCA (Financial Conduct Authority)  ของอังกฤษคือหนึ่งในใบอนุญาตที่  “ โหดสุด ”  ในวงการเทรด และถ้าคิดว่าแค่สมัครแล้วรออนุมัติ...คงต้องคิดใหม่ เพราะเบื้องหลังการได้มาของใบอนุญาตนี้มีต้นทุนที่สูงจนทำให้หลายแพลตฟอร์มต้องยอมถอย   FCA  ไม่ใช่แค่เรื่องภาพลักษณ์ แต่เป็นบทพิสูจน์ของทุนและความน่าเชื่อถือ   สิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้คือ การได้ใบอนุญาต  FCA  แบบเต็มรูปแบบ ( Full License – STP  หรือ  MM)  ไม่ใช่แค่การผ่านเกณฑ์ด้านกฎระเบียบ แต่ยังเป็นการแสดงถึง   " กำลังทุน ความเสถียรของการดำเนินงาน และความจริงใจในการแยกเงินลูกค้าอย่างแท้จริง"   ตัวอย่างเช่น  EBC   ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มที่ถือ   ใบอนุญาต  FCA Full License   พร้อมกับการได้รับอนุมัติ  “14  รายการธุรกิจ ”  จาก  FCA  ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มทั่วไป (ส่วนใหญ่อยู่ที่  3-5  รายการเท่านั้น)   ค่าใช้จ่ายเบื้องหลังที่ทำให้หลายแพลตฟอร์ม "ถอดใจ" ค่าธรรมเนียมข...

ทุกวันนี้แพลตฟอร์มฟอเร็กซ์มีให้เลือกเยอะมาก จนบางครั้งก็แยกไม่ออกว่าอันไหนเชื่อถือได้ อันไหนควรหลีกให้ไว ลองมองง่าย ๆ เหมือนการจัดอันดับเครดิต ถ้าแบ่งแพลตฟอร์มออกเป็น  4  ระดับ จาก  AAA  ถึง  D  จะรู้เลยว่าความต่างนั้นมีผลกับ  “ คุณภาพการเทรด ”  อย่างแท้จริง   ระดับที่  1: AAA –  มาตรฐานสูงสุด แพลตฟอร์มระดับนี้ถือว่า  “ ครบเครื่องที่สุด ”  เทียบเท่าการจัดอันดับ  AAA  ในระบบเครดิตระดับโลก โดยต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน เช่น ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูง เช่น  FCA  ของอังกฤษ , ASIC  ของออสเตรเลีย มีการเชื่อมต่อกับสภาพคล่องจากแหล่งระดับโลก ลดปัญหาสลิปเพจและดีเลย์ ระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทันสมัย พร้อมรับมือทุกสภาพตลาด สเปรดต่ำ ค่าธรรมเนียมและค่า  Swap  ต่ำ ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร ให้บริการลูกค้าตลอด  24  ชั่วโมง ทุกวัน รองรับการเทรดหลายรูปแบบและหลายผลิตภัณฑ์ แทบไม่มีข้อร้องเรียนจากลูกค้า มีระบบฝากถอนผ่านธนาคารเกรด  AAA  และดำเนินการรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น   ...

สำหรับสายเทรดเร็วที่ต้องการเข้าไว ออกไว จบไม้ภายในไม่กี่นาที  ความเร็ว ความเสถียร และต้นทุน  คือปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม เพราะเพียงแค่  “ ดีเลย์ไม่กี่วินาที ”  หรือ  “ ค่าสเปรดแพงไปนิดนึง ”  ก็สามารถเปลี่ยนกำไรให้กลายเป็นขาดทุนได้   จากการเปรียบเทียบแพลตฟอร์มชื่อดังหลายเจ้าผ่าน  3  มิติหลัก ได้แก่   ความเร็วในการส่งคำสั่ง ,  ต้นทุนการเทรด ,  และ   ความเสถียรของระบบ   พบว่าแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การเทรดสั้นได้ดีที่สุด มีดังนี้:   1.  ความเร็วส่งคำสั่ง: จังหวะดี ไม่มีหลุด แพลตฟอร์มที่ใช้เวลาเฉลี่ยในการส่งคำสั่งต่ำกว่า  350  มิลลิวินาที ( ms)  จะถือว่ามีโครงสร้างระบบที่ดีมาก โดยเฉพาะในตลาดที่ความเร็วคือทุกอย่าง EBC   เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ทำได้ต่ำกว่า  350ms  อย่างต่อเนื่อง Forex.com  และ   XM, FXTM, Pepperstone, Eightcap, Exness   อยู่ในช่วง  350–450ms  ซึ่งยังอยู่ในระดับที่เหมาะสำหรับสายเทรดเร็ว   2.  ต้นทุนต่ำ สเปรดนิ่ง ลดโอกาสหลุดกำไร เทรดสั้นไ...

เวลาที่เราเลือกแพลตฟอร์มเทรด มักจะมองหาแต่ข้อดีและเปรียบเทียบเพื่อหาแพลตฟอร์มที่ถูกใจที่สุด แต่จริง ๆ ในโลกของการลงทุน แค่ข้อเสียเล็กๆ เพียงจุดเดียว ก็อาจทำให้เงินของเราหายไปได้ เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามข้อเสียเด็ดขาด   ถ้าแพลตฟอร์มไหนมีปัญหา  3  ข้อต่อไปนี้ แนะนำให้  “ รีบถอย ”  ทันที   1.  ฝากถอนล่าช้าเป็นประจำ โดยปกติแล้ว แพลตฟอร์มที่ได้มาตรฐานจะมีการแยกบัญชีของลูกค้าไว้อย่างชัดเจน และมีระบบฝากถอนที่สอดคล้องกับขั้นตอนของธนาคาร   แต่ถ้าเริ่มสังเกตว่า ช่วงหนึ่งมีการฝากถอนล่าช้าบ่อย ๆ และใช้เวลาเกิน  48  ชั่วโมงเป็นประจำ ต้องระวังให้ดี   ควรตรวจสอบสิ่งเหล่านี้: บัญชีที่ฝากเงินเข้า  ยังตรงกับบัญชีเดิมหรือไม่ บัญชีที่อ้างว่าเป็น  “ บัญชีรับฝากแยก ”  ยังเป็น ชื่อเดียวกันหรือเปล่า หมายเหตุ: การล่าช้าบางครั้งอาจเกิดจากระบบธนาคาร ไม่ต้องตกใจเกินไปถ้าเป็นครั้งคราว โดยปกติแพลตฟอร์มที่ดีจะชี้แจงเหตุผลอย่างเป็นชัดเจน เวลาที่ส่งคำขอก็มีผล เช่น หลัง  16:00  น. จะช้ากว่าปกติ หากยังอยู่ในกรอบ  48  ชั่วโมงก็ถือว่าไม...

สภาพคล่อง ( Liquidity)  คือหัวใจสำคัญที่นักเทรดทุกระดับควรให้ความสำคัญ  ยิ่งเทรดบ่อย   ยิ่งสัมผัสได้ถึงความแตกต่างระหว่างแพลตฟอร์มที่   “ ลื่น ”  กับแพลตฟอร์มที่   “ หน่วง ”  ได้ชัดเจน   หลายคนอาจคุ้นกับคำว่า  “ มีผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายเจ้า ”  แล้วคิดว่าเพียงพอ แต่ในความเป็นจริง สภาพคล่องมีหลายมิติที่สะท้อนอยู่ในการใช้งานจริงอย่างชัดเจน ทั้ง   ความเร็ว ,  ความกว้าง ,  ความลึก ,  และ   ความยืดหยุ่น   ซึ่งเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกัน จะช่วยให้แยกแยะแพลตฟอร์มที่ดีออกจากแพลตฟอร์มทั่วไปได้ไม่ยาก   1.  ความเร็ว  :  ยิ่งเร็ว ยิ่งลดโอกาสสลิปเพจ ในการเทรดผ่าน  MT4  หรือระบบใด ๆ กระบวนการจับคู่คำสั่งจะต้องวิ่งไปถึงผู้ให้บริการสภาพคล่อง ( LP)  และรับราคากลับมา ก่อนจะแสดงเป็นการซื้อขายสำเร็จ   ยิ่งรอบนี้ใช้เวลาน้อยเท่าไร ยิ่งสะท้อนถึงการเชื่อมต่อที่เสถียร และสามารถลดโอกาสเกิด  “ สลิปเพจ ”  ได้ดีมากขึ้น   โดยทั่วไป  การเชื่อมต่อจากฝั่งเอเชียไปยังสหราชอาณาจักร ...